Retention – การรักษาพนักงาน

การรักษาพนักงาน (Employee Retention) เป็นกระบวนการที่องค์กรใช้เพื่อ รักษาคนที่มีความสามารถ และ มีประสิทธิภาพ ให้อยู่ในองค์กรอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในสภาวะที่ตลาดงานมีการแข่งขันสูง การมี กลยุทธ์ในการรักษาพนักงาน ที่ดีสามารถช่วยให้องค์กรสามารถลดอัตราการลาออกของพนักงาน ลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาพนักงานใหม่ และยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตขององค์กรในระยะยาว

ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ความสำคัญ และ กลยุทธ์ ในการรักษาพนักงาน พร้อมทั้ง ตัวอย่างที่ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจภาพรวมและความจำเป็นในการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพในองค์กร

ความหมายของ Retention – การรักษาพนักงาน

Retention หรือ การรักษาพนักงาน หมายถึงกระบวนการที่องค์กรใช้เพื่อ รักษาพนักงานที่มีความสามารถ และ ทักษะเฉพาะ ให้อยู่ในองค์กรในระยะยาว โดยการใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ที่ส่งเสริมความพึงพอใจของพนักงานและทำให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่า เช่น การพัฒนาทักษะ, การให้รางวัล, การส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพ และการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี

การรักษาพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการที่พนักงานลาออกจากองค์กรไม่เพียงแต่ทำให้สูญเสีย ทักษะและความรู้ ที่สะสมไว้ แต่ยังสามารถสร้างความไม่มั่นคงในองค์กร และทำให้ต้องใช้ ทรัพยากร มากขึ้นในการหาพนักงานใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นในระยะยาว

ความสำคัญของการรักษาพนักงาน

การรักษาพนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ในองค์กรมีความสำคัญมากในหลายด้าน รวมถึง:

1. ลดต้นทุนในการสรรหาพนักงานใหม่

การหาพนักงานใหม่เพื่อทดแทนผู้ที่ลาออกมีต้นทุนทั้งในด้านการเงินและเวลา รวมถึงอาจต้องฝึกอบรมพนักงานใหม่ให้เข้ากับองค์กร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง

  • ตัวอย่าง: หากพนักงานที่มีทักษะเฉพาะทางในทีมออกจากองค์กร องค์กรต้องใช้เวลาในการหาผู้สมัครที่เหมาะสมและใช้เวลาฝึกอบรมใหม่ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึงหลายหมื่นบาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความสามารถที่ต้องการ

2. เพิ่มประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญในองค์กร

พนักงานที่ทำงานในองค์กรมานานจะมีความคุ้นเคยกับกระบวนการต่าง ๆ และมีความเชี่ยวชาญในงาน ซึ่งทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าให้กับองค์กรได้มากขึ้น

  • ตัวอย่าง: พนักงานที่ทำงานในฝ่ายบัญชีขององค์กรมานานจะเข้าใจรายละเอียดและกระบวนการในงานได้ดี มีความสามารถในการจัดการกับงานที่ซับซ้อนได้มากกว่าพนักงานใหม่

3. สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี

การรักษาพนักงานที่มีคุณภาพช่วยสร้าง ความเสถียร และ สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี เพราะพนักงานที่มีความพึงพอใจในการทำงานจะช่วยกระตุ้นให้เพื่อนร่วมงานทำงานได้ดีขึ้น และมีการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ

  • ตัวอย่าง: ในองค์กรที่มีการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน เนื่องจากพนักงานรู้สึกมั่นคงและมีแรงบันดาลใจในการทำงาน

4. พัฒนาองค์กรไปข้างหน้า

พนักงานที่อยู่ในองค์กรเป็นระยะเวลานานสามารถ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาองค์กร และสามารถนำเสนอความคิดเห็นหรือแนวทางในการพัฒนาองค์กรจากมุมมองที่มีประสบการณ์

  • ตัวอย่าง: พนักงานที่มีประสบการณ์ในด้านการตลาดอาจเสนอแนวทางในการปรับกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้องค์กรสามารถเจาะตลาดใหม่หรือเพิ่มฐานลูกค้าได้

กลยุทธ์ในการรักษาพนักงาน

มีหลายกลยุทธ์ที่องค์กรสามารถใช้เพื่อ รักษาพนักงาน ที่มีคุณภาพได้ ดังนี้:

1. การให้รางวัลและผลตอบแทนที่เหมาะสม

การให้ผลตอบแทนที่ยุติธรรมและเหมาะสมกับความสามารถของพนักงานเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขาได้รับการชื่นชม

  • ตัวอย่าง: องค์กรอาจให้ โบนัส ตามผลงานหรือการเพิ่มเงินเดือนเมื่อพนักงานทำงานได้ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานรู้สึกพึงพอใจและทุ่มเทให้กับงานมากยิ่งขึ้น

2. การพัฒนาและฝึกอบรม

การจัดการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขากำลังเติบโตและมีโอกาสในการพัฒนาตนเองในองค์กร

  • ตัวอย่าง: องค์กรอาจจัดคอร์สอบรมหรือให้พนักงานเข้าร่วมการประชุมสัมมนาต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ซึ่งช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจในการพัฒนาศักยภาพของพวกเขา

3. การให้โอกาสในการเติบโตในอาชีพ

พนักงานมักจะอยู่ในองค์กรที่ให้โอกาสในการเติบโตและก้าวหน้าในสายอาชีพ การมี เส้นทางอาชีพ ที่ชัดเจนจะช่วยให้พนักงานมองเห็นอนาคตและกระตือรือร้นที่จะทำงานให้ดีที่สุด

  • ตัวอย่าง: องค์กรสามารถเสนอ โอกาสการโปรโมต ให้กับพนักงานที่มีผลงานดี รวมถึงการสร้าง โครงสร้างการเติบโตในอาชีพ ที่ทำให้พนักงานรู้ว่าเขาจะได้รับโอกาสในการก้าวหน้าในอนาคต

4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

การสร้าง วัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการทำงานร่วมกัน, การเปิดกว้าง และ การเคารพในความหลากหลาย จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานและทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขามีความหมายในองค์กร

  • ตัวอย่าง: องค์กรที่สนับสนุนความยืดหยุ่นในเรื่องเวลาในการทำงานหรือให้ work-life balance ที่ดีจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัวของพวกเขาด้วย

5. การรับฟังและตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของพนักงาน

การให้พนักงานมี ช่องทางในการแสดงความคิดเห็น และการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะจากพนักงานเป็นวิธีที่ช่วยสร้างความพึงพอใจและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร

  • ตัวอย่าง: การจัดประชุมที่พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานหรือการพัฒนาองค์กร โดยจะมีการพิจารณาและตอบสนองอย่างจริงจัง

ตัวอย่างที่ชัดเจน

บริษัท ABC ซึ่งเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องการรักษาพนักงานวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถไว้ในองค์กร โดยใช้กลยุทธ์การรักษาพนักงานดังนี้:

  • ผลตอบแทนที่เหมาะสม: บริษัทให้เงินเดือนและโบนัสที่แข่งขันได้ในตลาด
  • การพัฒนาอาชีพ: บริษัทจัดฝึกอบรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ และให้พนักงานมีโอกาสเข้าร่วมโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่ท้าทาย
  • วัฒนธรรมองค์กร: บริษัทสร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้างและให้พนักงานมีอิสระในการเสนอความคิดเห็น

ผลที่ได้คือ พนักงานในทีมวิจัยและพัฒนาอยู่กับบริษัทมาอย่างยาวนานและทำงานด้วยความมุ่งมั่น เพราะพวกเขารู้สึกว่าความสามารถของพวกเขาได้รับการยอมรับ และมีโอกาสเติบโตในองค์กร

สรุป

การรักษาพนักงาน (Retention) เป็นปัจจัยที่สำคัญในการรักษาความสามารถขององค์กรและลดต้นทุนในการสรรหาพนักงานใหม่ กลยุทธ์ที่ดีในการรักษาพนักงานจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความมุ่งมั่นในการทำงานของพนักงาน รวมถึงช่วยพัฒนาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน HR

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ทาง HR

Retention