Author: EsteeMATE

  • Employee Engagement คืออะไร และทำไมองค์กรไทยถึงยังทำไม่สำเร็จ

    ในปัจจุบัน ความผูกพันของพนักงาน (employee engagement) เป็นหัวข้อที่สำคัญในด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความพึงพอใจ และความมุ่งมั่นของพนักงานต่อองค์กร แต่ทำไมหลาย ๆ องค์กรในไทยยังไม่สามารถสร้างความผูกพันที่เข้มแข็งได้สำเร็จ? บทความนี้จะเจาะลึกถึงความหมาย ความสำคัญ และวิธีการสร้างความผูกพันของพนักงาน รวมถึงอุปสรรคที่องค์กรไทยมักพบเจอ 1. ความหมาย (Definition) ความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement) คือ ระดับของความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นที่พนักงานมีต่อองค์กรและบทบาทของตนเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายประการ เช่น ความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกมีส่วนร่วม และความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายขององค์กร 2. ความสำคัญ (Importance) ความผูกพันของพนักงานมีผลต่อความสำเร็จขององค์กรในหลาย ๆ ด้าน เช่น: 3. ประโยชน์ (Benefits) การมีพนักงานที่มีความผูกพันสูงนำมาซึ่งประโยชน์ดังนี้: 4. ขั้นตอน/กระบวนการ (Process/Steps): Employee Engagement Survey การประเมินความผูกพันของพนักงานสามารถทำได้ผ่านการสำรวจความผูกพัน (Employee Engagement Survey) ซึ่งจะช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงระดับความผูกพันและด้านที่ต้องพัฒนา โดยมีขั้นตอนดังนี้: 5. ตัวอย่าง (Examples) ตัวอย่างการสร้างความผูกพันจากบริษัทไทยชั้นนำ:…

  • Performance Appraisal คืออะไร? วิธีประเมินผลงานที่ไม่ทำให้พนักงานรู้สึกถูกจับผิด

    หัวข้อบทความ: Performance Appraisal คืออะไร? วิธีประเมินผลงานที่ไม่ทำให้พนักงานรู้สึกถูกจับผิด การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Appraisal) เป็นหัวข้อที่มีความสำคัญในวงการทรัพยากรบุคคล เพราะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่องค์กรใช้สำหรับวัดผลการทำงานของพนักงาน ซึ่งสามารถสะท้อนถึงการพัฒนาตนเองและแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานได้ทันที หากการประเมินเหล่านี้ทำอย่างถูกต้องและเป็นธรรม จะช่วยให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองมากขึ้น ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ และขั้นตอนในการประเมินผลการปฏิบัติงานที่เป็นธรรม และไม่ทำให้พนักงานรู้สึกถูกจับผิด การประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่มุ่งเน้นที่การวัดผลการทำงานของพนักงานเท่านั้น แต่ยังต้องการให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การประเมินที่ถูกต้องและเป็นธรรมสามารถเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในองค์กรและเสริมความเชื่อมั่นระหว่างพนักงานและผู้จัดการได้ สำหรับบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดประเมินผลในองค์กรของคุณ อ่านบทความอื่นๆ ที่ Thai HR Pro ได้ที่นี่: [ลิงก์ไปยังบทความที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์]

  • FTE คืออะไร? คำนวณอย่างไรให้เข้าใจง่ายสำหรับ HR มือใหม่

    FTE คืออะไร? คำนวณอย่างไรให้เข้าใจง่ายสำหรับ HR มือใหม่ คำว่า FTE หรือ Full Time Equivalent เป็นคำที่ค่อนข้างสำคัญในวงการทรัพยากรบุคคล (HR) โดยเฉพาะกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนทรัพยากรมนุษย์และการชดเชยพนักงาน ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้ว่า FTE มีความหมายอย่างไร มีความสำคัญอย่างไร และวิธีการคำนวณที่อาจจะช่วยให้ HR มือใหม่เข้าใจและสามารถนำไปใช้ในองค์กรได้จริง ความหมายของ FTE (Definition) FTE คือการคำนวณเทียบค่าเท่าคุณค่าการทำงานของพนักงานเต็มเวลา โดยจะมีหน่วยเป็น 1.0 สำหรับพนักงานที่ทำงานเต็มเวลา และตัวเลขที่เป็นสัดส่วนลดหลั่นสำหรับพนักงานที่ทำงานในลักษณะงานพาร์ทไทม์หรือชั่วคราว ตัวอย่างเช่น พนักงานทำงานครึ่งเวลาจะมีค่า FTE เท่ากับ 0.5 ซึ่งหมายถึงทำงานครึ่งหนึ่งของพนักงานเต็มเวลา ความสำคัญของ FTE (Importance) การเข้าใจ FTE มีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น การวางแผนงบประมาณ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพงานภายในองค์กร การคำนวณ FTE ยังสามารถช่วยในการเปรียบเทียบภาระงานและช่วยให้ HR สามารถวางแผนปรับกระบวนการสรรหาหรือจ้างงานใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ของ FTE (Benefits) ขั้นตอนการคำนวณ…

  • Competency Framework คืออะไร และทำไม HR ต้องเข้าใจให้ลึกกว่าคำจำกัดความ

    ในโลกของการจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resource Management) หลายองค์กรได้พึ่งพา Competency Framework หรือกรอบความสามารถอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรพนักงานพัฒนาทักษะ หรือประเมินผลงาน การทำความเข้าใจใน Competency Framework จึงไม่เพียงแต่รู้คำจำกัดความเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจในบริบทและการนำไปใช้จริงอีกด้วย 1. ความหมายของ Competency Framework (Definition) Competency Framework คือเครื่องมือที่ใช้ในการนิยามและระบุทักษะ ความรู้ และพฤติกรรมที่พนักงานควรจะมีเพื่อสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิผล คำว่า “Competency” นั้นครอบคลุมถึง Competency Model (โมเดลความสามารถ) ซึ่งแสดงถึงโครงสร้างและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานนั้น ๆ 2. ความสำคัญของ Competency Framework (Importance) การมีกรอบความสามารถที่ชัดเจนช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ตรงตามเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อด้านต่าง ๆ ดังนี้: 3. ประโยชน์ของ Competency Framework (Benefits) 4. ขั้นตอนในการสร้าง Competency Framework (Process/Steps) 5. ตัวอย่างการใช้ Competency…

  • Absenteeism Rate

    อัตราการขาดงาน (Absenteeism Rate): การวัดผลที่มีความสำคัญในด้านทรัพยากรบุคคล การแนะนำ อัตราการขาดงาน (Absenteeism Rate) เป็นค่าวัดที่สำคัญในด้านทรัพยากรบุคคล (HR) ที่ใช้ประเมินความถี่ที่พนักงานขาดงานจากองค์กร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันสมควรหรือไม่สมควร การติดตามอัตราการขาดงานช่วยให้องค์กรเข้าใจแนวโน้มพฤติกรรมพนักงานและสามารถปรับแผนทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ความหมาย (Definition) อัตราการขาดงานคือ ค่าร้อยละที่แสดงถึงจำนวนวันที่พนักงานขาดงานเทียบกับจำนวนวันที่พนักงานควรมาทำงานภายในช่วงเวลาที่กำหนด การคำนวณนี้ช่วยให้ HR สามารถระบุว่ามีปัญหาการขาดงานที่จำเป็นต้องให้ความสนใจหรือไม่ 2. ความสำคัญ (Importance) – เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: การติดตามอัตราการขาดงานช่วยในการประเมินผลผลิต (Productivity) ขององค์กร หากอัตราการขาดงานสูง จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของทีมลดลง – การวางแผนทรัพยากรบุคคล: ช่วยให้ HR วางแผนการจัดสรรทรัพยากรและหากลยุทธ์ในการลดการขาดงาน – การระบุปัญหาสุขภาพและสวัสดิการ: การขาดงานอาจสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพหรือความพึงพอใจในงาน ซึ่งต้องการความระมัดระวังและการดูแลจาก HR 3. ประโยชน์ (Benefits) – การปรับปรุงนโยบาย: การวิเคราะห์อัตราการขาดงานช่วยในกระบวนการปรับปรุงนโยบายการลา (พนักงานลาป่วย เป็นต้น) เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพนักงาน – การพัฒนาความสัมพันธ์ในองค์กร: ทำให้ HR สามารถสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น…

  • Performance Appraisal

    หัวข้อบทความ: การประเมินผลงาน (Performance Appraisal) บทนำ: การประเมินผลงาน (Performance Appraisal) เป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญต่อการบริหารงานบุคคล ซึ่งมีบทบาทหลักในการวัดผลและพัฒนาผลงานของพนักงาน เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร ในโลกที่ HR Trends เปลี่ยนแปลงไป การประเมินผลงานด้วยวิธี Continuous Feedback และการใช้ OKRs (Objectives and Key Results) จึงมีบทบาทมากขึ้น ความหมาย (Definition) การประเมินผลงานเป็นกระบวนการที่องค์กรใช้เพื่อตรวจสอบ วัดผล และให้ข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับการทำงานของพนักงาน ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึงประสิทธิภาพของพนักงานในกรอบการทำงานที่กำหนด และเป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถและศักยภาพของพนักงานในระยะยาว ความสำคัญ (Importance) พัฒนาองค์กร: ช่วยให้พนักงานมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาไม่เพียงแค่ตัวเอง แต่รวมถึงการสนับสนุนองค์กรสู่ความสำเร็จ การจัดการผลงาน: ชี้ชัดจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงของพนักงาน การสร้างวัฒนธรรมการให้ฟีดแบ็ค: การใช้ Continuous Feedback ทำให้เกิดการสื่อสารเปิดกว้างระหว่างพนักงานและผู้บริหาร การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: การใช้ OKRs ช่วยให้การตั้งเป้าหมายมีความชัดเจนและวัดผลได้ ประโยชน์ (Benefits) ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน: มุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ: ช่วยให้องค์กรและพนักงานเข้าใจทิศทางในการพัฒนาอาชีพ เพิ่มขวัญกำลังใจ:…

  • Cost per Hire

    ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน (Cost per Hire) การทำงานในสายทรัพยากรบุคคลจะต้องมีการวิเคราะห์และประเมินค่าใช้จ่ายในกระบวนการจ้างงานด้วย “ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน” (Cost per Hire) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ HR มืออาชีพต้องรู้จักและนำไปใช้ เพื่อให้การจ้างงานมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อองค์กร ความหมาย (Definition) ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน (Cost per Hire) คือค่าใช้จ่ายรวมที่เกิดขึ้นในการจ้างงานพนักงานใหม่ ซึ่งครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การประกาศรับสมัคร การคัดเลือกผู้สมัคร การอบรมเบื้องต้น จนกระทั่งพนักงานเริ่มงาน ค่าใช้จ่ายนี้สามารถรวมถึงค่าโฆษณา ค่าวิจัยตลาด ค่าการสัมมนา ค่าจ้างบริษัทล่าหัว และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ความสำคัญ (Importance) การคำนวณค่าใช้จ่ายในการจ้างงานมีความสำคัญเพราะ: 1. ประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการจ้างงาน: ระบุส่วนที่ต้องการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 2. การจัดการงบประมาณ: ช่วยกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับการจ้างงาน 3. เปรียบเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม: วิเคราะห์ว่าองค์กรอยู่ในระดับใดของมาตรฐานอุตสาหกรรม ประโยชน์ (Benefits) ขั้นตอน/กระบวนการ (Process/Steps) ตัวอย่าง (Examples) องค์กร A ในประเทศไทยมีการจ้างงานใหม่ 10 ตำแหน่งในปีที่ผ่านมา และมีค่าใช้จ่ายรวม…

  • Succession Planning

    วางแผนการสืบทอดตำแหน่ง: บทความเชิงลึกสำหรับผู้เชี่ยวชาญทรัพยากรบุคคล บทนำ การวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรมีความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงทางด้านบุคลากร โดยเฉพาะในระดับผู้นำ การวางแผนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยคงเสถียรภาพในการบริหารงาน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาผู้นำ (Leadership Development) และการบริหารจัดการบุคลากรที่มีศักยภาพ (Talent Management) บทความนี้จะลงลึกถึงแนวคิด ความสำคัญ ประโยชน์ และกระบวนการของการสืบทอดตำแหน่ง โดยเน้นถึงการปฏิบัติงานที่ทันสมัย 1. ความหมายของการสืบทอดตำแหน่ง การสืบทอดตำแหน่งเป็นกระบวนการที่องค์กรจัดเตรียมบุคคลเพื่อรับตำแหน่งสำคัญในอนาคต โดยวางแผนการพัฒนาและฝึกฝนบุคคลเหล่านั้นให้พร้อมเมื่อตำแหน่งสำคัญเกิดว่างลง ซึ่งกระบวนการนี้จะรวมถึงการประเมินการทำงาน การฝึกอบรม และการให้โอกาสในการพัฒนาทักษะที่จำเป็น 2. ความสำคัญของการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง เสถียรภาพในการบริหารงาน: การวางแผนเชิงรุกช่วยให้องค์กรสามารถรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่มีอุปสรรค การพัฒนาบุคลากร: สนับสนุนการพัฒนาทักษะขั้นสูงให้กับพนักงาน ซึ่งสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กร การดึงดูดและรักษาบุคลากร: องค์กรที่ชำนาญการสืบทอดตำแหน่งสามารถดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพได้ดียิ่งขึ้น 3. ประโยชน์ของการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ: ช่วยให้มีการบริหารจัดการที่โปร่งใสและมีการจัดการที่ดี สร้างความผูกพันบุคลากร: พนักงานที่เห็นอนาคตในองค์กรจะมีความผูกพันและทุ่มเทให้ความสำคัญกับงานมากขึ้น 4. ขั้นตอน/กระบวนการในการสืบทอดตำแหน่ง ระบุตำแหน่งที่สำคัญ: ค้นหาตำแหน่งงานที่มีผลกระทบต่อองค์กรและควรมีแผนสืบทอด ประเมินความสามารถและศักยภาพ: วิเคราะห์ศักยภาพของบุคคลที่มีอยู่และแนวโน้ม พัฒนาบุคลากร: ลงทุนในฝึกอบรมและพัฒนาเพื่อเตรียมบุคลากรสำหรับอนาคต กำหนดแผนสืบทอด: จัดทำเอกสารแผนสืบทอดที่ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้ ติดตามและปรับปรุง: มีการตรวจสอบและปรับปรุงแผนสืบทอดให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง 5.…

  • Employee Net Promoter Score (eNPS)

    ไม่มีการระบุคำขอเฉพาะ โปรดให้รายละเอียดหรือคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันเขียนในบทความเกี่ยวกับ Employee Net Promoter Score (eNPS) เพื่อให้ฉันสามารถสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์สำหรับคุณได้ค่ะ

  • Time to Fill

    เวลาที่จะเติมเต็ม (Time to Fill): แนวทางสำหรับผู้เชี่ยวชาญ HR บทนำ ในกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญคือ “เวลาที่จะเติมเต็ม” (Time to Fill) ซึ่งเป็น Recruitment KPI ที่ช่วยให้ทีมทรัพยากรบุคคลสามารถประเมินความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการหาผู้สมัครเพื่อเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งงานว่างขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีคำที่เกี่ยวข้องใกล้เคียงคือ “เวลาที่จะจ้าง” (Time to Hire) ซึ่งมักถูกใช้ในการประเมินกระบวนการสรรหาพนักงานเช่นกัน ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ และวิธีการดำเนินการของเวลาที่จะเติมเต็ม และเวลาที่จะจ้าง พร้อมด้วยตัวอย่างในบริบทของธุรกิจไทย 1. ความหมาย (Definition) เวลาที่จะเติมเต็ม (Time to Fill) หมายถึง ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ตำแหน่งงานได้รับการอนุมัติให้เปิดรับสมัคร จนถึงวันที่ได้รับการยืนยันจากผู้สมัครให้เข้าร่วมงาน ในขณะที่เวลาที่จะจ้าง (Time to Hire) หมายถึงช่วงเวลาตั้งแต่ผู้สมัครได้รับเลือกให้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือก จนกระทั่งวันที่พวกเขายอมรับข้อเสนอในการทำงาน 2. ความสำคัญ (Importance) 2.1 การวัดผลความสำเร็จในกระบวนการสรรหา: การเข้าใจตัวชี้วัดนี้ช่วยให้ HR รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดในการเติมเต็มตำแหน่งและประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการสรรหา 2.2…