Recruitment (การสรรหาพนักงาน)

Recruitment (การสรรหาพนักงาน)

การสรรหาพนักงาน (Recruitment) หมายถึง กระบวนการในการหาผู้สมัครที่เหมาะสมเพื่อเติมเต็มตำแหน่งงานที่ว่างในองค์กร ซึ่งกระบวนการนี้มีเป้าหมายหลักในการดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพมาเข้าร่วมองค์กร โดยกระบวนการสรรหานี้มักเริ่มต้นตั้งแต่การกำหนดความต้องการในตำแหน่งงานจนถึงการเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดมาร่วมงาน

ความสำคัญของ Recruitment (การสรรหาพนักงาน)

การสรรหาพนักงานเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจและการบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กร เนื่องจากพนักงานถือเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเติบโตและความสำเร็จขององค์กร ดังนั้น การสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพจึงเป็นขั้นตอนที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในกระบวนการบริหารงานบุคคลขององค์กร

ความสำคัญของการสรรหาพนักงาน

  1. การหาคนที่มีความสามารถและทักษะที่เหมาะสม
    การสรรหาพนักงานเป็นวิธีการที่ช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดและเลือกคนที่มีทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการขององค์กร เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้
    • ตัวอย่าง: หากองค์กรต้องการพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดออนไลน์ การสรรหาที่มีประสิทธิภาพจะช่วยหาผู้สมัครที่มีทักษะและประสบการณ์ด้านนี้มาเข้าร่วมงาน
  2. การเสริมสร้างประสิทธิภาพของทีมงาน
    การสรรหาพนักงานที่เหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างความสมดุลในทีมงาน และทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ตัวอย่าง: หากองค์กรมีทีมที่ทำงานด้านการตลาดและต้องการเพิ่มพนักงานที่มีทักษะด้านการออกแบบกราฟิก การเลือกสรรพนักงานที่มีความสามารถในด้านนี้จะช่วยให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นและบรรลุเป้าหมายการตลาดได้อย่างรวดเร็ว
  3. ลดอัตราการลาออกของพนักงาน
    หากองค์กรสามารถเลือกสรรพนักงานที่มีความสามารถและมีความสุขกับการทำงานในตำแหน่งที่ได้เลือกไว้อย่างเหมาะสม จะช่วยลดปัญหาการลาออกของพนักงานที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    • ตัวอย่าง: หากพนักงานใหม่ได้รับการเลือกสรรอย่างดีและเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรได้ดี พวกเขามีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรนานขึ้นและทำงานอย่างมีความสุข
  4. เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
    การสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันขององค์กร เพราะพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสามารถช่วยพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าและสามารถแข่งขันได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
    • ตัวอย่าง: หากบริษัทเลือกสรรพนักงานที่มีความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือในด้านการวิจัยและพัฒนา ก็จะทำให้บริษัทสามารถพัฒนาและแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
  5. การสนับสนุนการเติบโตขององค์กร
    การสรรหาพนักงานที่มีคุณสมบัติและทักษะที่เหมาะสมสามารถช่วยองค์กรเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพนักงานเหล่านี้สามารถมีบทบาทสำคัญในการขยายธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือขยายตลาด
    • ตัวอย่าง: บริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ อาจจะต้องการพนักงานที่มีความรู้ด้านการตลาดระหว่างประเทศและการแปลภาษาที่เหมาะสม ซึ่งการสรรหาพนักงานที่มีทักษะนี้จะช่วยให้การขยายตลาดไปยังต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น
  6. การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่ดี
    การเลือกสรรพนักงานที่มีคุณค่าทางจริยธรรมและสอดคล้องกับวัฒนธรรมขององค์กรสามารถช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีและเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน
    • ตัวอย่าง: หากองค์กรมีวัฒนธรรมที่เน้นการทำงานเป็นทีมและการเปิดเผยความคิดเห็น การเลือกสรรพนักงานที่มีคุณค่าตรงกับวัฒนธรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพและลดความขัดแย้งในที่ทำงาน

ขั้นตอนของกระบวนการสรรหาพนักงาน

  1. การวิเคราะห์ความต้องการ (Job Analysis)
    • ขั้นตอนแรกในการสรรหาคือการทำความเข้าใจว่าองค์กรต้องการพนักงานในตำแหน่งไหน โดยการวิเคราะห์ลักษณะงานและทักษะที่จำเป็นต้องการ เช่น การกำหนดหน้าที่ของงาน คุณสมบัติที่จำเป็น และประสบการณ์ที่ต้องการ
    • ตัวอย่าง: หากบริษัทต้องการเพิ่มทีมงานในตำแหน่ง “นักการตลาดดิจิทัล” ก็จะต้องวิเคราะห์ทักษะที่เกี่ยวข้อง เช่น ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ หรือการจัดการแคมเปญโฆษณาบนสื่อดิจิทัล
  2. การประกาศรับสมัคร (Job Posting)
    • หลังจากที่ทราบลักษณะงานและคุณสมบัติที่ต้องการแล้ว จะต้องทำการประกาศรับสมัครงานผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์บริษัท, เว็บไซต์หางาน, โซเชียลมีเดีย, หรือแม้กระทั่งการใช้บริษัทจัดหางาน
    • ตัวอย่าง: “บริษัท ABC เปิดรับสมัครตำแหน่งนักการตลาดดิจิทัล ผู้ที่สนใจสามารถสมัครผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทหรือส่งประวัติการทำงานมาที่อีเมล์”
  3. การคัดเลือกผู้สมัคร (Screening)
    • เมื่อได้รับใบสมัครงานแล้ว ทาง HR จะทำการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัคร เช่น การตรวจสอบประสบการณ์การทำงาน หรือการศึกษา เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงตามที่องค์กรต้องการ
    • ตัวอย่าง: เมื่อได้รับใบสมัครจากผู้สมัครที่มีทักษะในการทำการตลาดออนไลน์และมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือการโฆษณาของ Google และ Facebook
  4. การสัมภาษณ์ (Interview)
    • หลังจากการคัดเลือกเริ่มต้นแล้ว จะมีการสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อประเมินความสามารถ ทัศนคติ และทักษะในการทำงานที่สำคัญ รวมถึงการตรวจสอบความเข้ากันได้กับวัฒนธรรมองค์กร
    • ตัวอย่าง: การสัมภาษณ์ตำแหน่งนักการตลาดดิจิทัล อาจจะมีการทดสอบการคิดกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลผ่านการพูดคุยในกรณีศึกษา หรือการตั้งคำถามเกี่ยวกับการวางแผนแคมเปญในโลกออนไลน์
  5. การตรวจสอบประวัติ (Background Check)
    • หลังจากที่เลือกผู้สมัครที่เหมาะสมแล้ว บางองค์กรจะทำการตรวจสอบประวัติการทำงานของผู้สมัคร เช่น การตรวจสอบอาชญากรรม ประวัติการทำงาน หรือการตรวจสอบคุณวุฒิ
    • ตัวอย่าง: การตรวจสอบประวัติการทำงานของผู้สมัครเพื่อยืนยันว่าผู้สมัครเคยทำงานในตำแหน่งที่คล้ายคลึงกัน
  6. การเสนอข้อเสนอการจ้างงาน (Job Offer)
    • หากผู้สมัครผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว และถือว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน องค์กรจะส่งข้อเสนอการจ้างงานพร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเดือน สวัสดิการ และเงื่อนไขการทำงาน
    • ตัวอย่าง: “ขอแสดงความยินดีกับคุณสมชาย คุณได้รับข้อเสนอในการเข้าทำงานในตำแหน่งนักการตลาดดิจิทัล โดยมีเงินเดือน 40,000 บาทต่อเดือน พร้อมสวัสดิการต่าง ๆ”
  7. การปฐมนิเทศ (Onboarding)
    • หลังจากที่ผู้สมัครยอมรับข้อเสนอและเริ่มงานแล้ว จะมีการจัดโปรแกรมการปฐมนิเทศเพื่อแนะนำผู้สมัครใหม่ให้คุ้นเคยกับวัฒนธรรมองค์กร กฎระเบียบ และการทำงานในบริษัท
    • ตัวอย่าง: เมื่อพนักงานใหม่เริ่มทำงาน จะมีการแนะนำให้รู้จักกับทีมงาน การแนะนำระบบการทำงาน และการเข้าอบรมในเรื่องต่าง ๆ ที่จำเป็น

ตัวอย่างกรณีศึกษา

บริษัท ABC ต้องการหาพนักงานในตำแหน่ง “นักการตลาดดิจิทัล” เพื่อลงมือทำการตลาดออนไลน์และพัฒนากลยุทธ์ดิจิทัลในตลาดอีคอมเมิร์ซ

  1. การวิเคราะห์งาน: ทีม HR พบว่าตำแหน่งนี้ต้องการผู้มีทักษะในการใช้เครื่องมือโฆษณาของ Google และ Facebook รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดออนไลน์
  2. การประกาศรับสมัคร: บริษัทประกาศรับสมัครงานผ่านเว็บไซต์บริษัทและเว็บไซต์หางานยอดนิยม เช่น LinkedIn, JobsDB
  3. การคัดเลือก: HR ทำการคัดเลือกใบสมัครที่ตรงตามคุณสมบัติที่กำหนดและเลือกผู้สมัครที่มีประสบการณ์ด้านการตลาดดิจิทัลมาให้สัมภาษณ์
  4. การสัมภาษณ์: HR สัมภาษณ์ผู้สมัครที่เลือกไว้ พร้อมทั้งให้ทำแบบทดสอบการวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล
  5. การตรวจสอบประวัติ: ตรวจสอบประวัติการทำงานเพื่อยืนยันว่าผู้สมัครมีประสบการณ์จริงในงานที่เกี่ยวข้อง
  6. การเสนอข้อเสนอ: ส่งข้อเสนอให้กับผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือก พร้อมทั้งระบุเงื่อนไขเงินเดือนและสวัสดิการต่าง ๆ
  7. การปฐมนิเทศ: เมื่อผู้สมัครยอมรับข้อเสนอและเข้าทำงานแล้ว บริษัทจัดการปฐมนิเทศพนักงานใหม่เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานและวัฒนธรรมองค์กร

ตัวอย่าง

  • หากบริษัท XYZ ต้องการหาพนักงานในตำแหน่ง Marketing Manager โดยมีคุณสมบัติที่ต้องการ เช่น มีประสบการณ์ในด้านการตลาดออนไลน์ สามารถจัดการแคมเปญโฆษณาได้ดี และสามารถทำงานร่วมกับทีมได้ บริษัทก็จะประกาศรับสมัครงานในช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์บริษัท และเว็บไซต์หางานต่าง ๆ หลังจากนั้นจะคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติที่ตรงตามที่ต้องการ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสัมภาษณ์และเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าร่วมงาน

สรุป

การสรรหาพนักงาน (Recruitment) เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญในการดึงดูดคนที่มีความสามารถมาเข้าร่วมองค์กรเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตในอนาคต โดยการวางแผนและดำเนินการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานได้อย่างสำเร็จ

Recruitment (การสรรหาพนักงาน)