Talent Acquisition การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ

Talent Acquisition (การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ): ความหมายและความสำคัญ

ความหมายของ Talent Acquisition การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ

Talent Acquisition หมายถึงกระบวนการในการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงและเหมาะสมกับความต้องการขององค์กร โดยการค้นหาผู้สมัครที่มีทักษะและความสามารถที่ตรงกับตำแหน่งงานที่เปิดรับ รวมถึงมีความเข้ากันได้กับค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กร โดยกระบวนการนี้จะไม่จำกัดแค่การหาคนมาแทนตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการวางแผนและพัฒนากลยุทธ์ในการดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพในระยะยาวเพื่อรองรับความต้องการที่กำลังเติบโตขององค์กรในอนาคต

ความสำคัญของ Talent Acquisition

  1. การเสริมสร้างศักยภาพขององค์กร:
    • การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพสามารถช่วยเสริมสร้างความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันขององค์กร การมีพนักงานที่มีทักษะและประสบการณ์ตรงจุดจะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
  2. ลดการสูญเสียพนักงานและเพิ่มอัตราการคงอยู่ของพนักงาน:
    • กระบวนการ Talent Acquisition ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้องค์กรได้พนักงานที่มีความสามารถและมีความพึงพอใจในการทำงาน ส่งผลให้ลดอัตราการลาออกของพนักงาน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการหาพนักงานใหม่และฝึกอบรมพนักงาน
  3. เพิ่มความหลากหลายและนวัตกรรมในทีมงาน:
    • การหาผู้สมัครที่มีความหลากหลายทั้งในแง่ของประสบการณ์ การศึกษาหรือทักษะ สามารถช่วยเพิ่มมุมมองใหม่ๆ ให้กับทีมงาน ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาและนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาโครงการต่างๆ
  4. เสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร:
    • การสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร หากองค์กรสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีทักษะสูงได้ แสดงถึงความเป็นองค์กรที่มีการพัฒนาและมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับพนักงาน ซึ่งจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในตลาด
  5. เตรียมความพร้อมในการเติบโตในอนาคต:
    • Talent Acquisition เป็นการวางแผนระยะยาวที่มีเป้าหมายในการเตรียมพนักงานที่พร้อมที่จะรองรับความเติบโตขององค์กร การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพตั้งแต่เริ่มต้นช่วยให้องค์กรมีบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถที่เพียงพอในการรองรับการขยายตัวและความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  6. การพัฒนาและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร:
    • บุคลากรที่มีศักยภาพสูงมักจะมีความสามารถในการส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีในองค์กร โดยการทำงานร่วมกับทีมอื่นๆ และมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์โครงการที่สำคัญ การสรรหาคนที่มีค่านิยมและวัฒนธรรมที่ตรงกับองค์กรจึงช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีและมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์และข้อดีของ Talent Acquisition

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  • ประโยชน์: การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพช่วยให้องค์กรมีพนักงานที่มีทักษะและความสามารถตรงกับความต้องการของงาน ส่งผลให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วและมีคุณภาพ
  • ข้อดี: ลดปัญหาการทำงานผิดพลาดหรือการต้องใช้เวลาฝึกอบรมพนักงานใหม่ ทำให้องค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีผลผลิตสูง

2. ลดอัตราการลาออกและการเปลี่ยนแปลงบ่อย

  • ประโยชน์: การเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพและเหมาะสมกับองค์กรจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกับงานและองค์กร และมีแนวโน้มที่จะอยู่ในองค์กรในระยะยาว
  • ข้อดี: ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสรรหาพนักงานใหม่ และลดปัญหาการต้องฝึกอบรมพนักงานใหม่บ่อยๆ ส่งผลให้องค์กรสามารถรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้ได้

3. เสริมสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์

  • ประโยชน์: การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถและทักษะจากหลากหลายสายงานหรือพื้นฐานต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางความคิดในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนากระบวนการทำงาน
  • ข้อดี: เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด เนื่องจากสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า

4. การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ

  • ประโยชน์: บุคลากรที่มีศักยภาพมักจะมีทักษะในการทำงานเป็นทีม สามารถร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานในทีมได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  • ข้อดี: การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปได้ดี มีการแบ่งงานและการจัดการโครงการอย่างมีระเบียบ ส่งผลให้โครงการสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีและรวดเร็ว

5. เสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร

  • ประโยชน์: การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสูงช่วยให้องค์กรได้รับการยอมรับและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาดแรงงาน ทำให้ผู้สมัครงานมีความสนใจเข้ามาทำงานในองค์กร
  • ข้อดี: การเป็นองค์กรที่มีบุคลากรที่มีศักยภาพจะช่วยดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพเข้ามาในอนาคต ซึ่งช่วยให้องค์กรมีทางเลือกในการสรรหาคนที่ดีที่สุด

6. สนับสนุนการเติบโตและความยั่งยืนขององค์กร

  • ประโยชน์: บุคลากรที่มีศักยภาพสามารถช่วยให้องค์กรสามารถขยายตัวและเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาและรักษาคนที่มีทักษะสูงจะช่วยให้บริษัทสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้
  • ข้อดี: ช่วยให้องค์กรมีความพร้อมที่จะรับมือกับการขยายตัวในอนาคต และสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน

7. การสนับสนุนการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

  • ประโยชน์: การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพไม่เพียงแต่หมายถึงการหาคนที่มีทักษะที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการดึงดูดคนที่มีค่านิยมและทัศนคติที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี
  • ข้อดี: การสร้างทีมที่มีค่านิยมและความคิดที่ตรงกันจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในที่ทำงาน ลดความขัดแย้ง และเพิ่มความพึงพอใจของพนักงานในระยะยาว

8. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด

  • ประโยชน์: การมีบุคลากรที่มีศักยภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น เนื่องจากมีคนที่มีทักษะในการพัฒนาและปรับตัวในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
  • ข้อดี: องค์กรจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้เร็วขึ้น และมีความสามารถในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • งานและมีศักยภาพในการเติบโตในองค์กรในระยะยาว

นี่คือตัวอย่างของกระบวนการ Talent Acquisition ที่ดำเนินการในองค์กร

ตัวอย่างที่ 1: บริษัท ABC จำกัด (บริษัทเทคโนโลยี)

สถานการณ์: บริษัท ABC จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังขยายธุรกิจต้องการหาวิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) ที่มีทักษะในการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มมือถือและมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางเทคนิคที่ซับซ้อน โดยต้องการคนที่สามารถทำงานร่วมกับทีมในลักษณะ Agile และมีประสบการณ์ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถขยายตัวได้ในระยะยาว

ขั้นตอนการ Talent Acquisition:

  1. การกำหนดความต้องการและคุณสมบัติของตำแหน่งงาน:
    • บริษัท ABC กำหนดคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับวิศวกรซอฟต์แวร์ ได้แก่:
      • ทักษะการเขียนโปรแกรมในภาษา Java, Kotlin, หรือ Swift
      • มีประสบการณ์ในการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ (Android/iOS)
      • ความสามารถในการทำงานในทีม Agile และใช้เครื่องมือ Jira หรือ Trello
      • ความสามารถในการคิดและแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
      • ทักษะการสื่อสารที่ดีในภาษาอังกฤษ
  2. การใช้เครื่องมือและแหล่งค้นหาผู้สมัคร:
    • Job Portals: บริษัทใช้เว็บไซต์หางานเช่น LinkedIn, Glassdoor และ JobThai เพื่อโพสต์ตำแหน่งงานและดึงดูดผู้สมัครที่มีทักษะ
    • การตลาดแบบ Active Recruiting: ทีม HR ใช้เครื่องมือ LinkedIn Recruiter เพื่อค้นหาผู้สมัครที่มีทักษะและประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของตำแหน่งงาน
    • การใช้เครือข่าย (Networking): HR มีการเข้าร่วมงานสัมมนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีและจัดกิจกรรม meet-up ที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมซอฟต์แวร์เพื่อสร้างเครือข่ายกับนักพัฒนาที่มีศักยภาพ
  3. การคัดเลือกผู้สมัคร:
    • การสัมภาษณ์รอบแรก: ทีม HR เริ่มต้นด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพื่อทดสอบทักษะพื้นฐานและความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในบริษัท เช่น การถามคำถามเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือเทคนิคที่ใช้ในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในงานที่แล้ว
    • การทดสอบทางเทคนิค: ผู้สมัครที่ผ่านการสัมภาษณ์แรกจะได้รับการทดสอบทางเทคนิค (Technical Assessment) โดยให้พัฒนาแอปพลิเคชันหรือแก้ไขบั๊กในโค้ดที่กำหนดเพื่อทดสอบทักษะการเขียนโปรแกรมและการแก้ปัญหา
    • การสัมภาษณ์กับผู้จัดการทีม: ผู้สมัครที่ผ่านการทดสอบทางเทคนิคจะได้สัมภาษณ์กับผู้จัดการทีม เพื่อทดสอบการทำงานร่วมกับทีมและทักษะการสื่อสารในองค์กร
  4. การประเมินและเลือกผู้สมัคร:
    • หลังจากสัมภาษณ์และทดสอบทางเทคนิค HR จะทำการประเมินผู้สมัครทั้งหมดโดยพิจารณาจากทักษะการทำงานเป็นทีม ความสามารถในการแก้ปัญหาทางเทคนิค และการเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร
    • ในการเลือกผู้สมัคร HR จะให้ความสำคัญกับการหาคนที่มีทักษะที่ตรงกับตำแหน่งงานและมีศักยภาพในการเติบโตในองค์กรในระยะยาว
  5. การเสนองานและการเริ่มต้น:
    • เมื่อเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุดได้แล้ว บริษัทจะเสนอตำแหน่งงาน พร้อมกับสวัสดิการและค่าตอบแทนที่เหมาะสม
    • เมื่อผู้สมัครยอมรับข้อเสนอ บริษัทจะเริ่มกระบวนการ onboarding เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานใหม่ในการเริ่มต้นทำงานที่บริษัท

ผลลัพธ์:

บริษัท ABC สามารถหาวิศวกรซอฟต์แวร์ที่มีทักษะตรงกับความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสรรหาผ่านกระบวนการที่ครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการ การใช้แหล่งค้นหาผู้สมัครที่หลากหลาย ไปจนถึงการทดสอบและสัมภาษณ์ที่ตรงกับงาน ผลลัพธ์คือการได้บุคลากรที่สามารถเข้ามาทำงานและช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือได้ตามความต้องการขององค์กร

ตัวอย่างที่ 2: บริษัท XYZ จำกัด (บริษัทบริการด้านการเงิน)

สถานการณ์: บริษัท XYZ จำกัด ที่ให้บริการด้านการเงินต้องการหาผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Marketing Manager) ที่มีประสบการณ์ในการทำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) และสามารถวางแผนกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้าในตลาดใหม่

ขั้นตอนการ Talent Acquisition:

  1. กำหนดคุณสมบัติของตำแหน่ง:
    • ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต้องมีทักษะในด้านการตลาดดิจิทัล เช่น SEO, SEM, Google Analytics
    • ประสบการณ์ในการทำแคมเปญการตลาดออนไลน์และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
    • มีความสามารถในการทำงานร่วมกับทีมสร้างเนื้อหาและทีมขาย
  2. การใช้แหล่งค้นหาผู้สมัคร:
    • บริษัทใช้เว็บไซต์การหางานออนไลน์ เช่น LinkedIn และ Indeed เพื่อโพสต์ตำแหน่งงาน
    • บริษัทใช้การโฆษณาแบบออนไลน์ (Google Ads, Facebook Ads) เพื่อดึงดูดผู้สมัครที่มีทักษะด้านการตลาดดิจิทัล
  3. กระบวนการสัมภาษณ์และการทดสอบ:
    • ผู้สมัครจะถูกสัมภาษณ์เพื่อทดสอบความรู้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด การใช้เครื่องมือดิจิทัล และการวิเคราะห์ผลจากแคมเปญที่ผ่านมา
    • ผู้สมัครจะได้รับมอบหมายให้เตรียมแผนการตลาดสำหรับบริการของบริษัทเพื่อประเมินทักษะการวิเคราะห์และการวางแผน
  4. การเลือกและการเสนอข้อเสนอ:
    • ผู้สมัครที่ผ่านการสัมภาษณ์จะได้รับข้อเสนอในการเข้าทำงานพร้อมกับสวัสดิการที่ดึงดูดใจ

ผลลัพธ์:

บริษัท XYZ สามารถหาผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่มีทักษะด้านการตลาดดิจิทัลที่เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยให้บริษัทสร้างแคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จและขยายฐานลูกค้าในตลาดใหม่ได้

สรุป

กระบวนการ Talent Acquisition ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้องค์กรสามารถสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพได้อย่างตรงจุด โดยการวางแผนการสรรหาที่ดี การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการค้นหาผู้สมัคร การทดสอบทักษะที่สำคัญ และการประเมินความเข้ากันได้กับองค์กร ซึ่งส่งผลให้ได้พนักงานที่มีคุณภาพสูงและมีความสามารถในการเสริมสร้างการเติบโตขององค์กร.

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน HR

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ทาง HR

Suggestions per Employee
Performance of New Hires
Rate of Internal Job Hires
Internal Promotions Vs. External Hires

Talent Acquisition การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ