ความหมายของ Compensation (ค่าตอบแทน)
Compensation หรือ ค่าตอบแทน หมายถึง เงินหรือสิ่งตอบแทนที่องค์กรจ่ายให้แก่พนักงานเพื่อเป็นการตอบแทนการทำงานและบริการต่างๆ ที่พนักงานได้ให้กับองค์กร โดยค่าตอบแทนไม่ได้หมายถึงแค่เงินเดือนหรือค่าจ้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถรวมไปถึงโบนัส สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พนักงานได้รับจากองค์กร
ค่าตอบแทนถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการจูงใจพนักงานและรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่ในองค์กร ค่าตอบแทนที่เหมาะสมและยุติธรรมจะช่วยให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานและสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กร
ความสำคัญของ ค่าตอบแทน (Compensation)
- การจูงใจพนักงาน
ค่าตอบแทนที่ดีและเหมาะสมสามารถกระตุ้นให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้นและมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน เพราะพนักงานรู้สึกว่าได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับความพยายามที่ทำไป - การรักษาพนักงานที่มีความสามารถ
องค์กรต้องสามารถจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมเพื่อรักษาพนักงานที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถ เพราะหากค่าตอบแทนไม่เพียงพอ พนักงานอาจมองหางานอื่นที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่า - การส่งเสริมให้พนักงานมีประสิทธิภาพ
ค่าตอบแทนไม่ใช่แค่การจ่ายเงินเดือน แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงาน เมื่อพนักงานได้รับการตอบแทนอย่างเป็นธรรมและตามผลงาน พวกเขาจะมุ่งมั่นในการทำงานให้ดีขึ้น - การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรและพนักงาน
การจ่ายค่าตอบแทนที่ยุติธรรมและโปร่งใสจะช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างองค์กรและพนักงาน และส่งเสริมให้เกิดความพึงพอใจในงานมากขึ้น - ความสามารถในการแข่งขัน
องค์กรที่ให้ค่าตอบแทนที่ดีกว่าองค์กรอื่นๆ จะสามารถดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถมากขึ้น และมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงานได้
ประเภทของค่าตอบแทน
- เงินเดือนหรือค่าจ้าง (Base Salary/Wages)
ค่าตอบแทนหลักที่พนักงานได้รับจากการทำงานตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งอาจเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือรายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของงานและสัญญาที่ตกลงกับพนักงาน - โบนัส (Bonuses)
โบนัสเป็นการจ่ายเพิ่มเติมจากเงินเดือนหรือค่าจ้างที่มอบให้แก่พนักงานตามผลการทำงาน หรือเป็นการตอบแทนพิเศษ เช่น โบนัสประจำปี หรือโบนัสตามผลงานที่ทำได้ - ค่าคอมมิชชั่น (Commissions)
ค่าตอบแทนประเภทนี้จะมอบให้กับพนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับการขาย เช่น พนักงานขาย ซึ่งค่าคอมมิชชั่นจะขึ้นอยู่กับยอดขายที่พนักงานทำได้ - สวัสดิการ (Benefits)
นอกจากเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้ว พนักงานอาจได้รับสวัสดิการต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, เงินบำนาญ, วันหยุดประจำปี, สิทธิการลาพักร้อน และอื่นๆ - หุ้นหรือสิทธิในการซื้อหุ้น (Stock Options)
บางองค์กรอาจให้สิทธิ์พนักงานในการซื้อหุ้นของบริษัทในราคาพิเศษ หรือให้หุ้นเป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานมีความสนใจในการพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร - การฝึกอบรมและการพัฒนา (Training and Development)
หลายองค์กรให้ค่าตอบแทนในรูปแบบของการฝึกอบรม หรือการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้กับพนักงาน ซึ่งถือเป็นการลงทุนในพนักงานและช่วยให้พวกเขาพัฒนาศักยภาพได้มากขึ้น
ตัวอย่างของค่าตอบแทน
กรณีที่ 1: พนักงานฝ่ายขาย
- เงินเดือนพื้นฐาน (Base Salary): 30,000 บาทต่อเดือน
- ค่าคอมมิชชั่น (Commissions): 5% ของยอดขายที่พนักงานขายได้ เช่น หากพนักงานขายสินค้าคิดเป็นมูลค่า 1,000,000 บาท จะได้รับค่าคอมมิชชั่น 50,000 บาท
- โบนัส (Bonus): โบนัสตามผลงาน เช่น ถ้าพนักงานทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปีนั้น (เช่น 5,000,000 บาท) จะได้รับโบนัสพิเศษ 100,000 บาท
- สวัสดิการ (Benefits): ประกันสุขภาพสำหรับพนักงานและครอบครัว, ประกันชีวิต, วันหยุดประจำปี 15 วัน
- สิทธิในการฝึกอบรม (Training Opportunities): โอกาสในการเข้าร่วมการอบรมด้านการขาย หรือการพัฒนาทักษะในการเจรจาต่อรอง
การประเมินค่าตอบแทน:
- พนักงานรายนี้ได้รับเงินเดือนพื้นฐาน 30,000 บาทต่อเดือน พร้อมค่าคอมมิชชั่นจากยอดขาย และโบนัสพิเศษเมื่อบรรลุเป้าหมายของปี ค่าตอบแทนรวมที่พนักงานจะได้รับขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายสินค้าและการบรรลุเป้าหมายประจำปี
- สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่พนักงานได้รับจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานและส่งเสริมให้พนักงานทำงานหนักขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
กรณีที่ 2: พนักงานฝ่ายบริการลูกค้า
- เงินเดือนพื้นฐาน (Base Salary): 25,000 บาทต่อเดือน
- โบนัส (Bonus): โบนัสประจำปีตามผลการประเมินที่ 10% ของเงินเดือน
- สวัสดิการ (Benefits): ประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, วันหยุดพักร้อน 12 วันต่อปี
- เงินกู้ยืมฉุกเฉิน (Emergency Loan): สิทธิในการขอกู้ยืมเงินฉุกเฉินจากบริษัทในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการเงิน
- การฝึกอบรม (Training): มีการอบรมพนักงานในด้านการบริการลูกค้าและการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสื่อสารกับลูกค้า
การประเมินค่าตอบแทน:
- พนักงานฝ่ายบริการลูกค้าจะได้รับเงินเดือนพื้นฐาน 25,000 บาท พร้อมโบนัสประจำปีที่คำนวณจากผลการทำงาน และยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะ
- สิทธิในการยืมเงินฉุกเฉินเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่ช่วยสนับสนุนความเป็นอยู่ของพนักงานในกรณีที่มีปัญหาด้านการเงิน
ตัวอย่างที่ 1: พนักงานฝ่ายขาย
ข้อมูลพื้นฐาน
- ชื่อพนักงาน: นายสมศักดิ์ ศรีสุข
- ตำแหน่ง: พนักงานฝ่ายขาย
- ระยะเวลาการทำงาน: 1 ปี
- เงินเดือนพื้นฐาน: 40,000 บาทต่อเดือน
- เป้าหมายการขาย: 5,000,000 บาทต่อปี
1. เงินเดือนพื้นฐาน (Base Salary)
- นายสมศักดิ์ได้รับเงินเดือนประจำเดือนที่ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่จ่ายให้ทุกเดือนโดยไม่ขึ้นอยู่กับผลการทำงาน
2. ค่าคอมมิชชั่น (Commissions)
- นายสมศักดิ์จะได้รับค่าคอมมิชชั่น 2% จากยอดขายทั้งหมดที่เขาขายได้
- หากนายสมศักดิ์ขายได้ 5,000,000 บาทในปีนั้น เขาจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 100,000 บาท (5,000,000 x 2%)
3. โบนัส (Bonus)
- โบนัสตามผลงาน: หากนายสมศักดิ์สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย 5,000,000 บาท เขาจะได้รับโบนัส 5% ของยอดขาย
- ในกรณีที่นายสมศักดิ์ทำยอดขายได้ 5,000,000 บาท จะได้รับโบนัส 250,000 บาท (5,000,000 x 5%)
- โบนัสประจำปี: นอกจากนี้นายสมศักดิ์ยังมีสิทธิ์ได้รับโบนัสประจำปีตามผลการประเมินจากหัวหน้างาน ซึ่งอาจอยู่ที่ 1 เดือนของเงินเดือน หากผลการทำงานเป็นที่น่าพอใจ
4. สวัสดิการ (Benefits)
- ประกันสุขภาพ: พนักงานและครอบครัวได้รับการคุ้มครองโดยประกันสุขภาพที่บริษัทจัดให้ ซึ่งครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นและอุบัติเหตุ
- ประกันชีวิต: บริษัทจัดให้มีประกันชีวิตที่มอบความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
- วันหยุดพักร้อน: นายสมศักดิ์มีสิทธิ์ลาพักร้อน 15 วันต่อปี
- เงินบำนาญ: นายสมศักดิ์ได้รับการสะสมเงินบำนาญจากบริษัทเป็นจำนวน 3% ของเงินเดือนประจำเดือน
5. การฝึกอบรม (Training)
- บริษัทมีการจัดฝึกอบรมให้พนักงานฝ่ายขายในทุกปี ซึ่งนายสมศักดิ์ได้เข้าร่วมการอบรมพัฒนาทักษะการขาย การใช้เครื่องมือดิจิทัลในการขาย เพื่อให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้
6. สิทธิในการซื้อหุ้น (Stock Options)
- พนักงานที่ทำงานมานาน 2 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ซื้อหุ้นของบริษัทในราคาพิเศษ โดยนายสมศักดิ์มีสิทธิ์ซื้อหุ้นของบริษัทได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด 10% ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการทำงานและผูกพันกับความสำเร็จขององค์กร
สรุปค่าตอบแทนที่นายสมศักดิ์จะได้รับ
- เงินเดือน: 40,000 บาท
- ค่าคอมมิชชั่น: 100,000 บาท (จากยอดขาย 5,000,000 บาท)
- โบนัสประจำปี: 250,000 บาท (5% ของยอดขายที่ทำได้)
- โบนัสประจำปี: 40,000 บาท (1 เดือนของเงินเดือน)
- สวัสดิการ: ประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, เงินบำนาญ, วันหยุดพักร้อน 15 วัน
รวมค่าตอบแทนที่นายสมศักดิ์ได้รับในปีนั้น (โดยไม่รวมสวัสดิการ) จะอยู่ที่ 430,000 บาท (40,000 x 12 + 100,000 + 250,000 + 40,000)
สรุป
การประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Appraisal) เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาองค์กรและพนักงาน โดยช่วยในการวัดผลการทำงานของพนักงาน เป้าหมายที่บรรลุ และพื้นที่ที่ต้องการการพัฒนา การประเมินผลที่ดีจะส่งผลให้พนักงานได้รับการชื่นชมจากผลงานที่ดี รวมทั้งได้รับการพัฒนาทักษะในด้านที่ต้องการปรับปรุง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการพัฒนาแผนการฝึกอบรม การเลื่อนตำแหน่ง หรือการมอบหมายงานใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ทาง HR
สนใจเริ่มต้นใช้งานระบบประเมินผลออนไลน์ EsteeMATE ติดต่อเราได้ที่นี่